TW-0037 โต๊ะสเตนเลส

สแตนเลสคืออะไร ผลิตจากอะไร ?

สแตนเลสสตีล (Stainless Steel) จะเป็นโลหะที่ผสมระหว่างเหล็ก คาร์บอน และโครเมียม จึงมีความสามารถในการทนต่อการกัดกร่อนได้สูง จึงเป็นสนิมได้ยาก

เนื่องจากการที่ผสมโครเมียมเข้าไปในตัวเหล็ก ทำให้โครงสร้างของเหล็กมีการสร้าง โครเมียมออกไซต์ขึ้น และสารชนิดนี้มีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้มีอะไรมากัดกร่อนเนื้อสแตนเลสได้โดยง่าย

และสแตนเลสในตามท้องตลาดก็ยังมีให้เลือกใช้ในหลากหลายประเภท ซึ่งจะแตกต่างกันตามอัตราส่วนผสม หรือมีการใส่ธาตุอื่นๆ เข้าไป ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น

ประเภทของสแตนเลส

1. กลุ่มออสเทนนิติค (Austenitic)
เป็นสแตนเลสชนิดที่ใช้งานอย่างแพร่หลาย มีส่วนผสมของโครเมียมประมาณ 16–22% คาร์บอนไม่เกิน 0.15% และมีการผสมนิกเกิลเข้าไปอีกด้วยประมาณ 8 -14% เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติ และเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อน

สำหรับรุ่นสแตนเลสสตีล ที่พบได้บ่อยในกลุ่ม ออสเทนนิติค คือ SS304 เป็นรุ่นที่ ผสมระหว่าง โครเมี่ยม 18% และนิคเกิล 8% หรือจะเรียกว่าสแตนเลส 18–8

และสแตนเลสรุ่น 200 อาจจะผสมแมงกานีส และไนโตรเจนแทน นิคเกิล เพื่อทำให้ราคาถูกลง

คุณสมบัติสำคัญของสแตนเลสสตีลกลุ่ม ออสเทนนิติค
ทนต่อการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม
สามารถขึ้นรูปและประกอบได้ดีมาก
ใช้กับงานที่เกี่ยวข้องกับคึวามสะอาดและอนามัยได้ดี
แข็งแรง และยืดหยุ่นสูง
แม่เหล็กดูดไม่ติด
ทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่เย็นจัดจนถึงประมาณ 600°C
รุ่นสแตนเลสที่พบได้ในกลุ่มออสเทนนิติค คือ SS200 Series, SS304, SS316 , SS304L, SS316L

2. กลุ่มเฟอร์ริติค (Ferritic)
เป็นสแตนเลสที่ใช้งานมากเป็นลำดับถัดมา มีส่วนผสมของคาร์บอนต่ำ โดยจะใช้โครเมียมเป็นส่วนผสมหลักอยู่ระหว่าง 10.5–27% และมินิกเกิ้ลผสมอยู่เล็กน้อย หรือไม่มีเลย

สแตนเลสชนิดนี้มักจะนำไปใช้ในการผลิต ถังน้ำ เครื่องครัว เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

คุณสมบัติของสแตนเลสสตีลกลุ่ม เฟอร์ริติค
ทนต่อการกัดกร่อนได้ดี
ต้านทานการกัดกร่อนใต้แรงเค้นได้ดีกว่า ออสเทนนิติก
มีข้อจำกัดในการขึ้นรูป ไม่สามารถชุบแข็งได้
ทนอุณหภูมิได้สูง ถึง 850°C
แม่เหล็กดูดติด
รุ่นสแตนเลสที่พบได้ในกลุ่ม เฟอร์ริติค คือ 430, 430Ti, 439, 409

3. กลุ่มมาร์เทนซิติค (Martensitic)
เป็นแสตนเลสที่ผลิตจากโครเมียมประมาณ 12 -14% คาร์บอนประมาณ 0.1–1% นิกเกิล 0–2% และลิบดินัม 0.2–1%

ซึ่งผลที่ออกมาสแตนเลสชนิดนี้จะมีความทนทานที่มากขึ้น เพื่อให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น

คุณสมบัติของสแตนเลสสตีลกลุ่ม มาร์เทนซิติค
มีความต้านทานการกัดกร่อนปานกลาง
สามารถปรับความแข็งแรงได้
ใช้ในงานอุณหภูมิสูงได้ถึง 593°C
มีข้อจำกัดในการเชื่อม เนื่องจากมีคาร์บอนสูง

4. กลุ่มดูเพล็กซ์ (Duplex Stainless Steel)
เป็นสแตนเลสมีโครงสร้างที่ผสมระหว่างเฟอร์ไรต์ และออสตไนต์ โดยมีโครเมียมผสมอยู่ประมาณ 19–28% โมลิบดินัมมากกว่า 5% และมีนิกเกิลน้อยกว่า ออสเทนนิติค

ซึ่งสแตนเลสชนิดนี้มีความต้านทานต่อการแตกร้าน และการกัดกร่อนได้ดีมาก สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดหรือด่าง

คุณสมบัติของสแตนเลสสตีลกลุ่ม ดูเพล็กซ์
ทนต่อคลอไรด์ ทำให้ใช้ได้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดหรือด่าง
ต้านทานต่อการกัดกร่อน
ใช้ในงานเชื่อมและการขึ้นรูปได้ดี

5. กลุ่มเพิ่มความแข็งด้วยการตกผลึก
เป็นสแตนเลสที่มีความแข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อนได้ด ีและยังขึ้นรูปและชุบแข็งได้ในทีเดียว จึงมักจะถูกนำมาทำเป็นแกนสิ่งต่างๆ เช่น ปั้ม หัววาล์วสำหรับส่วนผสมของสแตนเลสชนิดนี้จะประกอบด้วย โครเมียมประมาณ 17% นิคเกิล 4% และใส่ไนโอเบียมกับทองแดงอย่างละเล็กน้อย

โต๊ะสแตนเลส 304 และ โต๊ะสแตนเลส 201 คือสองประเภทของโต๊ะที่มีความแตกต่างกัน และได้รับความนิยมทั้งคู่ ซึ่งโต๊ะสแตนเลสทั้ง 2 เกรดนี้มีความแตกต่างกันทั้งในแง่ของวัสดุและคุณสมบัติ ไม่ว่าจะเป็น

1. โต๊ะสแตนเลส 304 (Stainless Steel 304 Table)

โต๊ะสแตนเลส 304 เป็นโต๊ะที่ถูกผลิตจากเหล็กสแตนเลสชนิด 304 ซึ่งเป็นเกรดที่คุณภาพสูงที่สุดในสแตนเลส  สามารถพบได้ทั่วไปในการผลิตอุปกรณ์สแตนเลสสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร เพราะมีปริมาณคาร์บอนต่ำ เหล็กกล้าประมาณ 70-75% โครเมียม ประมาณ 18% นิกเกิล 8%  ส่งผลให้มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน (corrosion-resistant) และมีความแข็งแรง ทำให้โลหะไม่เป็นสนิมง่าย  โต๊ะสแตนเลส 304 จึงถูกใช้งานในร้านอาหารต่าง ๆ เพราะมีความทนทานต่อสภาวะแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือความชื้น และยังทำความสะอาดได้ง่าย

2. โต๊ะสแตนเลส 201 (Stainless Steel 201 Table)

โต๊ะสแตนเลส 201 คือโต๊ะที่ผลิตจากวัสดุสแตนเลสชนิด 201 หรือ Stainless Steel 201 ซึ่งเป็นสารประกอบของโครเมียม (Chromium) 16-18% และ นิกเกิล (Nickel) 3.5-5.5% โต๊ะสแตนเลส 201 จึงไม่สามารถนำมาใช้กับอุปกรณ์ทำอาหารหรือโต๊ะอาหารได้ เพราะไม่ค่อยทนต่อการกัดกร่อน และขึ้นสนิมได้โดยง่าย

ดังนั้น ความแตกต่างสำคัญระหว่าง โต๊ะสแตนเลส 304 และ โต๊ะสแตนเลส 201  คือ

สารประกอบหลัก

 

– โต๊ะสแตนเลส 304

มีสารประกอบหลักคือโครเมียม (Chromium) 18% และ นิกเกิล (Nickel) 8% ซึ่งมีความทนทานต่อการกัดกร่อนและความแข็งแรงสูงมาก

– โต๊ะสแตนเลส 201

มีสารประกอบหลักคือโครเมียม (Chromium) 16-18% และ นิกเกิล (Nickel) 3.5-5.5% มีความทนทานต่อการกัดกร่อนน้อยกว่าสแตนเลส 304

ความทนทานต่อการกัดกร่อน

 

– โต๊ะสแตนเลส 304

มีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูงกว่า และเหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความกัดกร่อน เช่น โรงครัว ร้านอาหาร ร้านกาแฟ

– โต๊ะสแตนเลส 201

มีความทนทานต่อการกัดกร่อนน้อยกว่า และเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องการความทนทานต่อการกัดกร่อนมาก เช่น โต๊ะสำหรับวางของใช้ในบ้าน หรือโต๊ะชั้นวางของต่าง ๆ เป็นต้น

ความแข็งแรง

 

– โต๊ะสแตนเลส 304

มีความแข็งแรงสูงกว่า และเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องรับน้ำหนักเยอะ

– โต๊ะสแตนเลส 201

มีความแข็งแรงน้อยกว่า และเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปรับน้ำหนักได้น้อย

การเลือกใช้ระหว่างโต๊ะสแตนเลส 304 และ 201 จะขึ้นอยู่กับการใช้งานและความต้องการของคุณในแต่ละกรณี ถ้าคุณต้องการโต๊ะที่ทนทานและความแข็งแรงสูง 304 อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับการใช้งาน สำหรับร้านอาหารต่าง ๆ ส่วนโต๊ะสแตนเลส 201 อาจจะเหมาะกับการใช้งานทั่วไป เช่น นำไปใช้สำหรับวางข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน ไม่เหมาะกับการนำมาวางอาหารหรือของกินต่าง ๆ

โต๊ะสแตนเลส ราคาขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมใดบ้าง

โต๊ะสแตนเลส ราคาแตกต่างกันไปอย่างมากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา ซึ่งรวมถึงลักษณะของโต๊ะเอง ดังนี้

1. ขนาด

ขนาดของโต๊ะสแตนเลสมีผลต่อราคา โต๊ะที่ใหญ่กว่าจะมีราคาสูงกว่าโต๊ะที่เล็กกว่า นอกจากนี้ ขนาดที่ปรับได้หรือโต๊ะสแตนเลสพับได้ยังมีราคาสูงกว่าโต๊ะที่ไม่สามารถปรับได้

2. คุณภาพของสแตนเลส

ปัจจัยสำคัญอีกอย่างคือคุณภาพของสแตนเลสที่ใช้ในการผลิตโต๊ะ สแตนเลสเกรด 304 มักมีราคาสูงกว่าสแตนเลสที่มีคุณภาพต่ำกว่า เนื่องจากมีความทนทานต่อการกัดกร่อนและความสามารถในการทนทานต่อสภาวะแวดล้อมที่ดีกว่า

3. การออกแบบและคุณสมบัติเสริม

โต๊ะสแตนเลสที่มีการออกแบบเฉพาะ อาทิ โต๊ะสแตนเลสกลม โต๊ะสแตนเลส 2 ชั้น โต๊ะสแตนเลส เตรียมอาหาร หรือมีคุณสมบัติเสริม เช่น ชั้นวางของ, ล้อ, หรือการปรับความสูง เป็นต้น อาจมีราคาสูงกว่าโต๊ะที่ไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้

4. การผลิตและแบรนด์

บริษัทผู้ผลิตและแบรนด์ของโต๊ะสแตนเลสอาจมีราคาที่แตกต่างกัน เพราะบริษัทที่มีชื่อเสียงอาจจะมีราคาที่สูงกว่าบริษัททั่วไป

5. สถานที่ซื้อ

โต๊ะสแตนเลส ราคาอาจแตกต่างกันไปตามสถานที่ซื้อสินค้า ร้านค้าที่ขายอุปกรณ์ร้านอาหารหรืออุตสาหกรรมอาจมีราคาแตกต่างจากร้านค้าออนไลน์หรือห้างสรรพสินค้า

6. สภาพตลาด

โต๊ะสแตนเลส ราคาย่อมแรงเปลี่ยนไปตามสภาพตลาด การตรวจสอบราคาและเปรียบเทียบราคาจากหลายแหล่งการขายอาจช่วยให้คุณหาโต๊ะที่มีราคาคุ้มค่ามากที่สุดในขณะนี้

ดังนั้น ไม่มีราคาขั้นต่ำหรือราคามาตรฐานสำหรับโต๊ะสแตนเลส ราคาจะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ควรทำการวิเคราะห์ความต้องการและเปรียบเทียบราคาในตลาดก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อหาโต๊ะสแตนเลสที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณ