HA-S04-2T4WW แฮนด์พาเลท 2 ตัน 4 ทิศทาง หน้ากว้าง

ต้องการติดต่อสอบถาม หรือ มีข้อสงสัย

รายละเอียดเพิ่มเติม

แฮนด์พาเลท 2 ตัน

แฮนด์พาเลท 2 ตัน 4 ทิศทาง หน้ากว้าง

Transverse Hand Pallet Truck 2 TONs
แฮนด์พาเลท 2 ตัน 4 ทิศทาง หน้ากว้าง
Max Load Capacity kg 2000
Width Over Both Forks mm m 685
Fork Length mm I1 1150
Fork Width mm e 160
Cantilever mm I2 388
Max Lifting Height mm h 85
Wheel Base (fork length within roller),lifing mm I3,I5 825
Overall Length mm L 1538
Overall Height mm h3 1224
Steering Wheel Diameter mm 200
Fork Rollers Diameter mm 80
Weight, Approx. kg 80

ผลิตโดยโรงงานผู้ผลิตชั้นนำของโลกที่มีสิทธิบัตร (Patent) ของตนเองถึง 35 สิทธิบัตร

และมีจำหน่ายใน 140 ประเทศทั่วโลกมายาวนานได้รับการรับรองคุณภาพปลอดภัย ของยุโรปและของประเทศเยอรมัน

มีหลายรูปแบบให้เลือกตามการใช้งาน งารับน้ำหนักได้ตามสเปก แข็งแรงทนทาน

มีอายุใช้งานยาวนาน ได้รับความเชื่อถือจากผู้ใช้ในประไทยอย่างกว้างขวางมากกว่า 20 ปี

> สำหรับการทำงานในสถานที่แคบ เช่น ในตูคอนเทนเนอร์ หรือช่องทางเดินในคลัง

สไลด์ซ้าย-ขวา เข้าช่องทางวิ่งได้โดยไม่ต้องเลี้ยวรถ การเคลื่อนตัวทางขวาง

ทำได้โดยปรับความสูงให้เกิน 180 มม. และพลิกแฮนด์ 90 องศา

แฮนด์พาเลท (Hand pallet)

หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “แพลเลทแฮนด์ทรัค” (Hand pallet truck) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการยกของหรือพาเลทอย่างง่ายโดยมีการใช้มือเป็นหลัก โดยมีลักษณะเป็นรถบรรทุกที่มีล้อ 2 ล้อที่ติดกับขอบของแพลเลทและล้อหลัง 1 ล้อที่มีหน้ากว้างเพื่อสนับสนุนการยกขึ้นและลงได้ง่าย ส่วนเพิ่มเติมอีกคือมีแท่นยกและปุ่มสูบลมหรือปั้มไฮดรอลิกที่ใช้ในการยกและลดระดับของของในแพลเลทได้อย่างง่ายดาย

แฮนด์พาเลทมักถูกใช้ในโกดังสำหรับการจัดเก็บสินค้าหรือโรงงานเพื่อใช้ในการย้ายหรือจัดเก็บสินค้าแบบต่าง ๆ โดยสามารถใช้ในการยกและยกของที่มีน้ำหนักต่าง ๆ ได้ตามความจำเป็นของงาน แฮนด์พาเลทเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการทำงานและสามารถใช้งานได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้กำลังมากนัก แต่ควรระมัดระวังในการใช้งานเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การเดินทางในพื้นผิวที่เรียบ การระวังของที่อาจหลุดออกมา เป็นต้น

แฮนด์พาเลทมีความสำคัญในการเคลื่อนย้ายสินค้าในโลจิสติกส์และการจัดเก็บสินค้า การใช้แฮนด์พาเลทช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการย้ายของ ทำให้กระบวนการดำเนินการในโกดังหรือโรงงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ การใช้แฮนด์พาเลทยังช่วยลดการบรรทุกด้วยมือของพนักงาน ทำให้ลดความเหนื่อยล้าและเสี่ยงต่ออุบัติเหตุจากการยกของที่มีน้ำหนักมากด้วยมือ เช่น พนักงานในโกดังหรือโรงงานมักจะใช้แฮนด์พาเลทในการยกของที่มีน้ำหนักหนักแทนที่จะยกด้วยมือโดยตรง ทำให้ลดการบาดเจ็บและการสูญเสียทรัพย์สินได้ด้วย

สำหรับการเลือกซื้อแฮนด์พาเลทควรพิจารณาความเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น น้ำหนักที่สามารถยกได้ เสถียรภาพของโครงสร้าง และความทนทานต่อการใช้งานระยะยาว เพื่อให้ได้ระบบที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการใช้งาน

วิธีการใช้งานเบื้องต้นสำหรับรถลากพาเลท (Hand pallet truck)

วิธีการใช้งานแบบเบื้องต้นมีดังนี้

1. ยกพาเลท – ดันคันโยกลง แล้วทำการโยกด้ามจับจำทำให้งารถลากพาเลทจะยกขึ้น

2.เคลื่อนที่ – ปรับคันโยกมาตำแหน่งตรงกลาง จะเป็นตำแหน่งฟรี งาจะไม่ยกขึ้นหรือลง สำหรับการลากพาเลทเคลื่อนที่

3. พาเลทลง – ดันคันโยกหรือบีบคันโยกขึ้น   จะทำให้งารถลากพาเลทลดระดับลง

ข้อแนะนำการใช้งานเพิ่มเติม

1. ควรยกขึ้นเพียงเล็กน้อย เพื่อให้สามารถเคลื่อนตัวได้ ไม่จำเป็นต้องยกขึ้นสุดนอกจากจะไม่ต้องออกแรงเกินจำเป็นแล้ว

ยังช่วยให้กระบอกยกไม่รับภาระมากเกินไป ป้องกันความเสียหาย

2. เมื่อไม่ได้ใช้งานรถลากพาเลท  ไม่ควรยกของวางค้างไว้

3. ขณะใช้งานยกพาเลท ลากเคลื่อนที่  ควรอยู่ด้านหลังของด้ามจับ เพราะจะเป็นตำแหน่งที่ปลอดภัยขณะทำงาน ไม่ควรอยู่ใกล้ด้านของงาที่ยกของ

3. ไม่ควรนำรถไป ทิ้งไว้กลางแดด โดนฝน นานๆ เพราะจะทำให้อุปกรณ์ต่างๆเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

วิธีการเลือกรถลากพาเลท

1. ความกว้างของรถลากพาเลท โดยทั่วไปจะมีขนาดความกว้าง 2 ขนาด

– ขนาด 685 mm หน้ากว้าง เป็น รุ่นมาตรฐานนิยมมากสุด ใช้กับพาเลทส่วนใหญ่

– ขนาด 550 mm หน้าแคบ เป็นรุ่นตัวเลือก ใช้กับพาเลทขนาดเล็ก พาเลทหน้าแคบ

ดังนั้น ก่อนซื้อรถลากพาเลท  จึงจำเป็นต้องตรวจสอบขนาดช่องเสียบของพาเลท เพื่อให้แน่ใจว่าจะเลือกใช้รถลากพาเลทขนาความกว้างงาเท่าไร

ที่สามารถใช้งานร่วมกับพาเลทที่มีอยู่ได้

2.ล้อรถลากพาเลท

– ล้อโพลียูรีเทน(PU) เป็นล้อสีแดง มีความนุ่ม ยืดหยุ่น เงียบขณะลาก เหมาะกับพื้นที่ฉากเรียบ ข้อเสีย ความทนทานปานกลาง สึกหรอง่ายหากใช้ในพื้นที่หยาบกระด้าง

ไม่ทนเคมี ไม่ทนความชื้น เพราะยางจะอมน้ำ

– ล้อไนล่อน(Nylon) เป็นล้อตัวเลือก มีสีขาว แข็งแรง ทนสารเคมี ทนความชื้น เหมาะกับงานในที่ชื้น มีสารเคมีตามพื้น ข้อเสีย กระด้าง เสียงดัง เวลาลาก

การใช้ Hand Lift อย่างปลอดภัย

อย่างที่เราทราบกันดีว่า ความปลอดภัยของคนสำคัญมาก ถ้าใช้เครื่องมือ Hand Lift อย่างประมาท อาจเกิดความเสียหายขึ้นอย่างไม่คาดคิด

ด้วยความที่แฮนด์ลิฟท์เป็นเครื่องมือที่มีน้ำหนักมาก และยังต้องขนของที่มีน้ำหนักหลาย ๆ ตันไปด้วยอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถลากที่เป็น Hand Pallet แบบ Manual ที่ต้องใช้แรงงานคนในการควบคุม มันอาจจะต้องใช้ทักษะและความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ

เพราะหากใช้งานอย่างไม่ระมัดระวัง เช่น การลากแฮนด์พาเลทลงในทางลาดชันที่ผิดวิธี จึงทำให้กล่องลังต่าง ๆ หล่นลงจากพาเลท ซึ่งมันอาจทำให้มีการบาดเจ็บเกิดขึ้นได้

1. ตรวจเช็คทุกอย่างก่อนปฏิบัติงาน

ก่อนจะใช้งาน Hand Lift ไม่ว่าจะเป็นรุ่นธรรมดา, รุ่นไฟฟ้า, หรือแม้กระทั่งแฮนด์ลิฟท์ประเภทไหนก็ตาม สิ่งที่คุณจะต้องทำ คือการตรวจสอบทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนการปฏิบัติงานจริง ฉะนั้นสิ่งที่ควรตรวจเช็คคือ

  • ตรวจเช็ครอยแตกร้าวของ Hand Lift

การเช็คแฮนด์ลิฟท์ประเภทต่าง ๆ ของคุณว่ามีรอยแตกร้าว หรือความเสียหายตรงไหนหรือไม่ จะทำให้คุณลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้มากทีเดียวเลยค่ะ  เพราะถ้าหากรถยกหรือรถลากมีความเสียหาย แต่คุณไม่ได้สังเกต การบรรทุกสิ่งของที่หนักมากๆ อาจส่งผลให้รถพังลงมาพร้อมกับสินค้านั้นๆ ซึ่งผลที่ตามมาคือ สินค้าอาจหล่นลงมาทับคน เป็นเหตุทำให้เกิดความเสียหายทั้งทรัพยากรที่เป็นสินค้าและทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสำคัญมากที่สุดก็ได้ค่ะ

  • ตรวจเช็คปั๊มไฮโดรลิก

ทำได้โดยการใช้แฮนด์กดคันโยกลง เพื่อยกงาขึ้นจนสุด จากนั้นสังเกตว่า ตอนที่โยกปั๊มมันสามารถใช้งานได้ราบรื่นดีไหม รวมทั้งคุณจะต้องตรวจสอบว่า มีน้ำมันไฮโดรลิกรั่วหรือไม่ไปพร้อม ๆ กันด้วย

  • ตรวจเช็คพาเลทสินค้า

ก่อนที่จะนำแฮนด์พาเลทสอดเข้าไปใต้พาเลทยกสินค้า สิ่งที่ต้องทำก่อนเลยคือ ให้เช็คว่าพาเลทสินค้านั้นมีความมั่นคง, แน่นหนา, และไม่มีความเสียหายแตกร้าว

  • ตรวจเช็คสิ่งกีดขวางรอบตัว
  • เช็คให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งกีดขวางด้านบน ในระหว่างที่คุณกำลังยกพาเลทขึ้น ระวังสิ่งกีดขวางเหนือศีรษะ หรือสิ่งกีดขวางอื่น ๆ เช่น ชั้นวางสินค้า, เพดานที่ต่ำเกินไป และอื่น ๆ ที่อาจชนกับของที่เรากำลังบรรทุกบนพาเลทเพราะบางครั้ง สิ่งของที่บรรทุกอาจมีความสูงมาก ซึ่งอาจส่งผลให้มันชนเข้ากับสิ่งกีดขวางนั้นจนเกิดอันตรายได้ ดังนั้นเช็คให้เรียบร้อยก่อนยกสินค้าและเคลื่อนที่รถลาก
2. ระวังเรื่องน้ำหนักสินค้า

ดูว่าแฮนด์ลิฟท์หรือแฮนด์พาเลทของคุณสามารถรองรับน้ำหนักได้มากที่สุดเท่าไหร่ และอย่าบรรทุกสินค้าที่มีน้ำหนักเกินกว่านั้น เพราะอาจทำให้รถพังได้ง่าย อีกทั้งยังเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุขณะลากรถได้

นำสิ่งของที่มีน้ำหนักมากที่สุดวางไว้ด้านล่างสุดด้วยนะ หลายคนน่าจะทราบดีแล้ว แต่เตือนบางคนที่มีความเร่งรีบหรือขี้เกียจเรียงสินค้า จึงวางอันไหนก็ได้ทับ ๆ กันไป แต่ถ้าคุณทำแบบนั้น สิ่งของที่วางทับ ๆ กันโดยไม่จัดลำดับน้ำหนักให้ดี มันมีโอกาสร่วงหล่นลงมาโดนหัวคน และเกิดความเสียหายได้

3. ไม่ควรวิ่งขณะกำลังเคลื่อนที่

ควรควบคุมความเร็วของการเคลื่อนที่ด้วยการเดิน ไม่ควรวิ่ง เวลาเลี้ยวควรเลี้ยวไปในทิศทางที่ชัดเจน

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือให้ต้องจับแฮนด์ให้แน่นและยืนตรงกลางของรถลากพาเลทเสมอในระหว่างที่กำลังเคลื่อนที่ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุให้ได้มากที่สุด

4. ควบคุมความเร็วในทางลาดชัน

แม้ว่าเราจะไม่ควรลากแฮนด์ลิฟท์และแฮนด์พาเลทไปในทางลาดชัน แต่ในบางครั้ง เราอาจไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะเดินผ่านมันได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้จะมี 2 กรณีด้วยกันคือ

  • การลง

ให้รถลากอยู่ด้านหน้า โดยสิ่งที่ควรทำเมื่อเดินลงทางลาดชันขณะกำลังควบคุมแฮนด์ลิฟท์อยู่ (โดยเฉพาะ Hand Pallet แบบธรรมดา) ให้ค่อย ๆ ลากรถลงและพยายามรักษาการทรงตัวไว้ให้ดี

การควบคุมความเร็ว ทำได้ด้วยการจับแฮนด์ให้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วดันไว้เล็กน้อยเพื่อชะลอความเร็วหากรถลากเคลื่อนที่เร็วเกินไป

  • การขึ้น

ให้รถลากอยู่ด้านหลัง จากนั้นจับแฮนด์แล้วดึงขึ้นมาแล้วออกแรงลากมาตามทาง ระหว่างนี้ ให้สังเกตว่ามีสิ่งของตกหล่นด้วยหรือไม

5. ควรใช้การดึงหรือลากมากกว่าการเข็น

เมื่อคุณใช้การดึงหรือลากเข้าหาตัว จะทำให้คุณสามารถควบคุมตัวรถแฮนด์พาเลทได้ดีกว่า เพราะการเข็นหรือการดันออกไปเพื่อให้รถเคลื่อนที่ มีโอกาสที่จะทำให้ล้อเปลี่ยนทิศทาง และเสียการทรงตัวได้ง่าย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการพลิกคว่ำได้

# แต่หากใช้งานจนชำนาญแล้ว การเข็นอาจทำได้ในบางสถานการณ์ในระยะทางสั้น ๆ เช่น การเปลี่ยนทิศทาง เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

6.ห้ามขึ้นไปบนรถลากเด็ดขาด

ถ้ารถลากพาเลทชนิดไหน ถูกออกแบบมาให้ใช้แค่ขนของอย่างเดียว คุณก็ควรใช้งานมันแค่นั้น ห้ามขึ้นไปบนรถลากพาเลทไม่ว่าจะในกรณีจำเป็นหรือนำไปขี่เล่นก็ตาม เพราะอาจส่งผลให้รถเสื่อมสภาพการใช้งาน และยังเป็นอันตรายต่อคนที่ขึ้นไปขี่อีกด้วย

7. อยู่ตำแหน่งที่เหมาะสม

ก่อนอื่นคุณอาจจะต้องกำหนดทิศทางการเคลื่อนที่กับพนักงานทุกคนที่ใช้งานตั้งแต่แรกว่า ควรเดินทางซ้ายหรือขวา เพื่อให้เข้าใจตรงกันในโรงงาน ซึ่งก็จะเป็นระเบียบและเกิดอันตรายได้น้อยที่สุด

  • ขณะกำลังเคลื่อนที่
  • ตรวจสอบบริเวณโดยรอบให้ดีว่ามีรถบรรทุกหรือรถโฟล์คลิฟท์คันอื่นที่กำลังเคลื่อนที่ผ่านไปมาแถวนั้นหรือเปล่า ไม่ควรเคลื่อนที่ไปอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กันจนเกินไป หากมีเพื่อนร่วมงานสวนทางมาหรือถึงทางแยก ให้หยุดรถก่อนเสมอเพื่อป้องกันการชนกันเกิดขึ้น
  • ขณะจอด
  • เวลาที่คุณหยุดจอดหรือถึงจุดหมาย ไม่ควรจอดขวางประตูหรือทางเดินเข้าออก นําสิ่งของมาวางขัดล้อไว้เพื่อป้องกันล้อเลื่อนไปมา จากนั้นให้ยืนในตำแหน่งที่ปลอดภัย ไม่เอาตัวเองเข้าใกล้ตัวรถพาเลทสินค้ามากเกินไป ไม่นำเท้าเข้าไปใกล้ ๆ ใต้รถลาก เพื่อป้องกันพาเลทสินค้าหรือล้อรถทับเท้านั่นเองค่ะ